สมัยโปรของไทเกอร์ วูดส์เทิร์นแรกๆ
เรื่องราวความสำเร็จ

ความสำเร็จไม่ได้คงอยู่กับเราตลอดไป

ความสำเร็จเป็นสิ่งที่ได้มายากลำบาก แต่การรักษาความสำเร็จให้อยู่กับเราไปนานๆ เป็นเรื่องยากกว่า คำพูดนี้หลายคนคงรู้ดีและประสบด้วยตนเองมาแล้ว หนึ่งในนั้นคือ “ไทเกอร์ วูดส์” นักกอล์ฟเบอร์หนึ่งของโลกในยุคสมัยหนึ่ง เขาก้าวเข้าสร้างสีสันในวงการกอล์ฟทำให้ได้รับความสนใจในวงกว้างมากขึ้น แน่นอนว่าสำหรับคนไทยแล้ว การเป็นลูกครึ่งคนไทยของไทเกอร์ วูดส์ ช่วยจุดประกายให้เยาวชนสนใจกีฬากอล์ฟมากขึ้น หลายคนเดินตามรอยเท้ากลายมาเป็นนักกอล์ฟระดับโลกในปัจจุบัน วงการกอล์ฟไทยเติบโตอย่างมากนับตั้งแต่นั้น เส้นทางชีวิตของไทเกอร์ วูดส์ก้าวสู่บันไดความสำเร็จสูงสุด แต่แล้วกลับดิ่งวูบลงอย่างน่าใจหายตลอดหลายปีที่ผ่านมา

การก้าวกลับมายืนในฐานะนักกอล์ฟติดอันดับต้นๆ ของโลกอีกครั้ง หลังจากคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ครั้งแรกในรอบ 5 ปี สร้างความฮือฮาในวงการกีฬา วงการนักกอล์ฟ หรือแม้แต่คนทั่วไปยังอดรู้สึกยินดีกับเขาด้วยไม่ได้ เพราะเขาสามารถเอาชนะความล้มเหลวจากหลายปัจจัยลบที่ถาโถมเข้ามาทุกด้าน สิ่งที่เคยฉุดให้ชีวิตตกต่ำได้สลัดหลุดออกไปหมดแล้ว ชัยชนะครั้งนี้ดันจากตำแหน่ง 1,199 อันดับ กลับมาอยู่ที่ 13 ในทันที

สมัยโปรของไทเกอร์ วูดส์เทิร์นแรกๆ

ลองมองย้อนกลับไป สมัยที่ไทเกอร์ วูดส์เทิร์นโปรครั้งแรก มีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น และได้เซ็นสัญญากับสปอนเซอร์ยักษ์ใหญ่อย่างแบรนด์ไนกี และเงินอัดฉีดจากสปอนเซอร์อื่นๆ ที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ได้หยุด หลังจากคว้าแชมป์รายการมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ ด้วยวัยเพียง 21 ปีถือว่ามีอายุน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ หนุ่มลูกครึ่งไทยขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งของโลกตั้งแต่ตอนนั้น ความสำเร็จดูเหมือนจะรายล้อมรอบตัว ทำท่าจะเป็นดาวค้างฟ้าในวงการไปนานๆ

แล้ววันหนึ่งวงล้อโชคชะตาหมุนกลับเมื่อไทเกอร์ วู้ดส์ประสบอุบัติเหตุขับรถชนภายในบ้านส่วนตัว มีอันต้องหย่าร้างกับภรรยา เริ่มมีปัญหาจากการบาดเจ็บต้องผ่าตัดหลายครั้ง ท้ายสุดถูกจับกุมข้อหาขับรถขณะมึนเมาเพราะฤทธิ์ยาที่ใช้ระงับอาการบาดเจ็บ ชีวิตเหมือนเล่นกลที่จู่ๆ ก็ตกอับไปชนิดที่ไม่มีใครคาดว่าจะหวนคืนวงการได้อีก แต่เพราะชีวิตไม่มีคำว่าล้มเหลวได้ แต่ไม่มีคำว่ายอมแพ้ ไทเกอร์ วู้ดส์ กลับมาลงสนามอีกครั้งในปี 2018 สามารถคว้าอันดับสองอย่างฉิวเฉียดในรายการวัลสปาร์ แชมเปียนชิพช่วงเดือนมีนาคม และอันดับ 2 ในรายการพีจีเอ แชมเปียนชิพ ในเดือนสิงหาคม ล่าสุดคือแชมป์ทัวร์ แชมเปียนชิพ กลางเดือนกันยายน

ไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จด้านไหนก็ตาม สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอที่จะทำให้รักษาความสำเร็จไว้ได้ยาวนาน เรื่องราวของไทเกอร์ วู้ดส์ คงทำให้หลายคนเข้าใจว่าสิ่งดีๆ ในชีวิตไม่ได้มาฟรีๆ และความสำเร็จไม่ได้คงอยู่ตลอดไป เมื่อสูญเสียไปแล้วต้องเสียหยาดเหงื่อและเวลามากขนาดไหนกว่าจะกลับมายืนจุดเดิมได้อีก ลองคิดดูว่าถ้าไม่ใช่ไทเกอร์ วู้ดส์ แต่เป็นตัวคุณเอง จะสามารถกลับมายืนที่เดิมได้หรือไม่

ความสำเร็จไม่ได้คงอยู่กับเราตลอดไป