เป็นไปได้ยากที่ตัวของเรานั้น จะมองโลกในแง่ดีไปเสียทุกด้าน เชื่อได้ว่าร้อยละ 80%-90% ของมนุษย์เราจะต้องมีคนส่วนมากที่มองโลกในสองแง่มุม ทั้งแง่บวกและแง่ลบ แต่แท้จริงแล้วส่วนมากก็จะมองกันแต่แง่ลบเสียส่วนใหญ่ เหมือนกับเวลาที่เราวาดรูปวงกลมลงในกระดาษสีขาวแล้วก็ลองแต้มจุดสีดำลงไปในวงกลมนั้น หากลองถามผู้คนที่ได้มองกระดาษสีขาวที่วาดวงกลมแล้วมีจุดนั้นว่าในกระดาษนี้มีอะไรบ้าง ส่วนมากก็จะตอบว่า “มีจุดสีดำอยู่ในวงกลม”

นี่เป็นความคิดที่คนส่วนใหญ่ที่ตอบกันออกมา แต่แท้จริงแล้วทำไมโฆษณาถึงไม่ค่อยได้มองว่ามี พื้นที่ว่างสีขาวอยู่ในวงกลม ทั้งที่มันมีขนาดใหญ่กว่าเจ้าจุดสีดำเพียงแค่จุดเดียว นิสัยของมนุษย์เรานั้นชอบจะมองจุดใดจุดหนึ่งเอาไว้ก่อนมากกว่าการมองภาพรวม มันจึงเป็นสาเหตุให้มนุษย์เรานั้นส่วนมากจะมีทัศนคติลบง่ายกว่าบวก คือต่อให้คนเขาดีแค่ไหน หากวันใดวันนึงเค้าทำกับเราไม่ดี เราจะจำสิ่งที่เขาทำไม่ดีกับเราไว้ไปตลอด แต่สิ่งที่เขาทำดีกับเราที่ผ่านมานั้นมักจะไม่ค่อยจำกัน นี่เป็นนิสัยของคนส่วนมาก

ลองสำรวจตัวเอง ถ้าเราเป็นคนที่มีความคิดในเชิงลบรูปแบบนี้ ให้รีบเปลี่ยนเสีย เลือกบริโภคข้อมูลที่ดี เลือกมองโลกให้กว้างและใส่ใจกับสิ่งที่เป็นทัศนคติบวก คืออย่าได้มองจุดบกพร่องต่างๆให้เป็นปัญหา อย่าได้มองจุดแย่ต่างๆให้ตัวเรารู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งเหล่านั้น แต่จงมองในสิ่งดีแทนการมองสิ่งที่แย่ แล้วนำสิ่งที่ดีเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันของเรา ประโยคที่พูดมานั้นหลายคนอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่เชื่อได้ว่าหากเราค่อยๆดึงดูดสิ่งที่เป็นเชิงบวกเข้ามาในชีวิต บริโภคข่าวสารเชิงบวก บริโภคเรื่องราวความสำเร็จของคนที่ประสบความสำเร็จ ชีวิตเราก็จะมีทัศนคติบวกและมักจะมองโลกได้กว้างขึ้น

เมื่อเราทำได้ เปลี่ยนมุมมองไปในทิศทางเชิงบวก มันจะทำให้เราสามารถถึงเป้าหมายที่ต้องการประสบความสำเร็จได้ไวยิ่งขึ้น ส่วนใครที่ยังจมปักชอบมองแต่ข้อเสีย ชอบมองในส่วนที่แย่มากกว่าส่วนที่ดี คนเหล่านั้นก็มักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะนิดๆหน่อยๆก็จะมาเป็นอุปสรรคไปได้ทั้งหมดเลย อยากประสบความสำเร็จต้องเปลี่ยนทัศนคติให้ถูกต้อง